รัฐบาลไทยมีมติเห็นชอบ มาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป โดยครอบคลุมเกษตรกรลูกค้ารายย่อยของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั้งหมด 2.698 ล้านราย ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้คงเหลือทุกสัญญารวมกัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท ทั้งในสถานะเป็นหนี้ปกติ และ/หรือเป็นหนี้ค้างชำระ (หนี้ 0 – 3 เดือน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans : NPLs))
มาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ครอบคลุมเกษตรกรรายย่อย ธ.ก.ส. 2.698 ล้านราย
การพักหนี้เกษตรกร 3 ปี มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภัยแล้ง โดยเป็นการแบ่งเบาภาระการชำระหนี้ให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถฟื้นฟูและดำเนินอาชีพการเกษตรต่อไปได้
เงื่อนไขการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี
เกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักหนี้จะต้องแจ้งความประสงค์กับ ธ.ก.ส. ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนเกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการในอัตราร้อยละ 4.50 ต่อปี ระยะเวลาพักหนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2569
รายละเอียดเพิ่มเติม
เกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ 3 ปี จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี
- รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนเกษตรกรในอัตราร้อยละ 4.50 ต่อปี
- ระยะเวลาพักหนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2569
เกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักหนี้จะต้องแจ้งความประสงค์กับ ธ.ก.ส. ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566
การประเมินผล
รัฐบาลจะประเมินผลของมาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ในระยะแรก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและดำเนินการระยะ 2 และ 3 ต่อไป
มาตรการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
นอกจากมาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปีแล้ว รัฐบาลยังมีแผนที่จะปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกรรายละ 100,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการประกอบอาชีพและฟื้นฟูผลผลิตทางการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอีกด้วย
สรุป
มาตรการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี เป็นมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภัยแล้ง โดยเป็นการแบ่งเบาภาระการชำระหนี้ให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถฟื้นฟูและดำเนินอาชีพการเกษตรต่อไปได้