กู้ภัยช็อก! เปิดโลงเจอศพแช่น้ำแข็งนาน 4 คืน ญาติเพิ่งแจ้งให้ฉีดฟอร์มาลีนเพราะเริ่มส่งกลิ่น
เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลังสวนผงะ! เปิดโลงเจอศพแช่น้ำแข็งนาน 4 คืน ญาติเพิ่งแจ้งให้ฉีดฟอร์มาลีนเพราะเริ่มส่งกลิ่น
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก “นาย โอ๊ต จันทร กู้ภัยหลังสวน” ได้โพสต์ภาพที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้พบเห็น เป็นภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังจัดการกับศพที่ถูกแช่ไว้ในน้ำแข็งภายในโลงศพ พร้อมข้อความระบุว่า ญาติผู้เสียชีวิตได้โทรมาขอความช่วยเหลือให้ฉีดฟอร์มาลีน เนื่องจากศพเริ่มส่งกลิ่นแล้ว แต่เมื่อเปิดโลงออกมา กลับพบสภาพศพที่ขึ้นอืด คล้ายกับการดองปลาทู สร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
นายโอ๊ต จันทร กู้ภัยหลังสวน ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การใช้น้ำแข็งแช่ศพนั้นเป็นวิธีการที่เคยนิยมในอดีตราว 30-40 ปีก่อน เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มีโลงเย็นที่แพร่หลายและมีราคาแพง ทำให้การใช้น้ำแข็งเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ได้ช่วยรักษาสภาพศพได้นานเท่ากับการใช้โลงเย็น และอาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น น้ำแข็งละลายเร็วเกินไป ศพสัมผัสกับน้ำแข็งโดยตรงจนเกิดความเสียหาย หรือเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์เมื่อศพเริ่มเน่าเปื่อย
ในกรณีนี้ ญาติผู้เสียชีวิตได้นำศพไปสวดอภิธรรมมาแล้ว 4 คืน ที่อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรสำหรับการเก็บรักษาศพด้วยน้ำแข็ง เมื่อศพเริ่มส่งกลิ่น ญาติจึงตัดสินใจติดต่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ฉีดฟอร์มาลีนเพื่อระงับกลิ่นและชะลอการเน่าเปื่อย โดยญาติแจ้งว่าตั้งใจจะนำศพไปสวดอภิธรรมต่ออีก 2 คืน ก่อนจะทำการฌาปนกิจ
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวโซเชียลจำนวนมากต่างแสดงความคิดเห็นและตั้งคำถามถึงสาเหตุที่ญาติเลือกใช้วิธีการแช่น้ำแข็ง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ค่อยพบเห็นในปัจจุบัน บางคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นเพราะความเชื่อทางศาสนา หรือความไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการเก็บรักษาศพที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของวิธีปฏิบัติในการจัดการศพ และความสำคัญของการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการจัดการศพอย่างถูกสุขลักษณะ