แก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอาชญากรรมรูปแบบหนึ่งที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินหรือมอบข้อมูลส่วนบุคคล ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้พัฒนารูปแบบการหลอกลวงให้ซับซ้อนและแนบเนียนมากขึ้น ทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก
วิธีป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในปี 2024
ในปี 2024 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนทั่วไป ถึงแม้ว่าจะมีการจับกุมและดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยังคงมีวิธีการใหม่ๆ ในการหลอกลวงเหยื่ออยู่เสมอ
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประชาชนจึงควรตระหนักถึงวิธีการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
วิธีป้องกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์
1. ตั้งสติ อย่าตกใจ
- หากได้รับสายโทรศัพท์จากบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานเอกชน ห้ามตกใจและอย่าเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ให้วางสายและตรวจสอบก่อนว่าบุคคลดังกล่าวมีตัวตนจริงหรือไม่
2. ตรวจสอบข้อมูล
- หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ให้โทรสอบถามไปยังหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ของหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง หรือโทรสอบถามไปยังสายด่วนตำรวจไซเบอร์ หมายเลข 1441
3. ระวังคำพูดหลอกลวง
- มิจฉาชีพมักใช้คำพูดหลอกลวง เช่น “คุณกระทำความผิด” “คุณต้องโอนเงินมาตรวจสอบ” “คุณมีรางวัลให้” เป็นต้น หากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพทันที
4. ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว
- มิจฉาชีพมักใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อหลอกเอาเงินหรือทรัพย์สินจากเหยื่อ ดังนั้น ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร รหัสหลังบัตร รหัส OTP เป็นต้น กับบุคคลที่ไม่รู้จัก
5. บล็อกสายเรียกเข้า
- หากได้รับสายเรียกเข้าจากต่างประเทศหรือหมายเลขแปลกๆ ที่ไม่น่าไว้วางใจ สามารถบล็อกสายเรียกเข้าได้ ด้วยการกด 1381# แล้วโทรออก
6. ติดตั้งแอปพลิเคชันแจ้งเตือน
- การติดตั้งแอปพลิเคชันแจ้งเตือน เช่น Whos Call จะช่วยระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จักได้ เพื่อป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่อาจโทรศัพท์มาหลอกลวง
7. ดูแลผู้สูงอายุและบุคคลใกล้ตัว
- ผู้สูงอายุและบุคคลใกล้ตัวมักตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ง่าย ดังนั้น ควรดูแลและแจ้งเตือนพวกเขาให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจโทรศัพท์มาหลอกลวง
นอกจากคำแนะนำข้างต้นแล้ว ประชาชนควรระมัดระวังและสังเกตสิ่งผิดปกติจากสายเรียกเข้าที่เข้ามา เช่น
- เบอร์โทรแปลกๆ ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในรายชื่อ
- บุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐหรือเอกชน แต่ไม่สามารถระบุชื่อหน่วยงานหรือตำแหน่งหน้าที่ได้อย่างชัดเจน
- เนื้อหาการโทรที่วกวน ไม่ชัดเจน และ มีการใช้คำพูดกดดัน เร่งรัดให้กระทำการต่างๆ
หากพบสิ่งผิดปกติเหล่านี้ ควรวางสายทันที และตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
วิธีป้องกันมิจฉาชีพทางโทรศัพท์ เพิ่มเติม
- ระมัดระวังเมื่อได้รับอีเมลหรือข้อความที่อ้างว่าเป็นจากหน่วยงานรัฐหรือเอกชน ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเปิดหรือคลิกลิงก์ใดๆ
- อัปเดตซอฟต์แวร์อุปกรณ์ของคุณอยู่เสมอ เพื่อปิดช่องโหว่ที่มิจฉาชีพอาจใช้
- ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและมัลแวร์บนอุปกรณ์ของคุณ
วิธีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
หากมีบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐหรือเอกชน โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าคุณกระทำความผิด หรือมีส่วนในการกระทำความผิด ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนโดย
- โทรศัพท์ไปยังหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ของหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง
- โทรศัพท์สอบถามไปยังสายด่วนตำรวจไซเบอร์ หมายเลข 1441
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ของหน่วยงานนั้นๆ หรือเว็บไซต์ของกรมประชาสัมพันธ์